คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ทดลองใช้วุ้น "ว่านหางจระเข้" รักษาผู้ป่วยแผลไฟไหม้ระดับ 1 และ 2 คือ มีแผลไฟไหม้บนร่างกายน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเข้ารับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากถูกไฟไหม้ และยังไม่ได้รับยาใด ๆ เปรียบเทียบกับการรักษาแบบทั่วไป คือ ใช้ยาซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน (Silver Sulfadiazine) ทาบริเวณแผล ผลปรากฏว่าวุ้น "ว่านหางจระเข้" สามารถใช้รักษาแผลไฟไหม้ได้ผลดีเทียบเท่ากับการใช้ยา นอกจากนี้ รายงานจาก Journal of Chemical and Pharmaceutical Research ยังเพิ่มเติมว่า "ว่านหางจระเข้" มีสรรพคุณช่วยบรรเทาการอักเสบของผิว ลบเลือนจุดด่างดำ และช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้อีกด้วย
กินวุ้น "ว่านหางจระเข้" ล้างไขมันในเลือด
"ว่านหางจระเข้" ยังมีสรรพคุณเด่นอีกประการ คือ ช่วยล้างไขมันในเส้นเลือด พบงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Revista Cubana de Medicina General Integral เกี่ยวกับประโยชน์ของสมุนไพรนี้ว่านักวิจัยทดลองให้ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง 60 คน ดื่ม "น้ำสกัดจากวุ้นว่านหางจระเข้" วันละ 10 มิลลิลิตรเป็นเวลา 12 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงทำการวัดระดับไขมันในเลือด พบว่า ผู้ป่วยมีระดับคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ลดลงถึง 15.4 เปอร์เซ็นต์ ไตรกลีเซอไรด์ลดลง 25.2 เปอร์เซ็นต์ และไขมัน LDL (Low-density Lipoprotein Cholesterol) ลดลง 18.9 เปอร์เซ็นต์
ใช้วุ้นว่างหางจระเข้อย่างถูกวิธี
รู้ประโยชน์อย่างนี้แล้ว มารู้วิธีใช้ "ว่านหางจระเข้" อย่างถูกต้องกันค่ะ น้ำยางสีเหลืองจาก "ว่านหางจระเข้" ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวและบริเวณที่สัมผัส จนอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยควรเตรียม "ว่านหางจระเข้" ก่อนใช้ ดังนี้
1. เลือกตัดใบ "ว่านหางจระเข้" จากด้านล่างสุดของ ต้นและล้างน้ำให้สะอาด
2. ตัดใบ "ว่านหางจระเข้" เป็นท่อน ๆ ขนาดท่อนละ 2 นิ้ว แช่น้ำประมาณ 10 นาที จะสังเกตเห็นน้ำยางสีเหลืองไหลออกมาในน้ำ
3. ปอกเปลือก "ว่านหางจระเข้" ออก และล้างน้ำยาง สีเหลืองออกจนหมด เมื่อมั่นใจจึงฝานวุ้น "ว่านหางจระเข้" เป็นแผ่นบาง หรือขยำให้ละเอียด พอกรักษาแผลถลอก แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ลบรอยด่างดำ ควรใช้วุ้นสด ภายใน 24 ชั่วโมงจะรักษาได้ผลดีที่สุด
ที่มา : นิตยสารชีวจิต พฤษภาคม 2556
ภาพประกอบ : www.pixabay.com
หน้าที่เข้าชม | 51,508 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 35,614 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.พ. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |